เตรียมเสนอครม.อนุมัติ “ทางด่วนพระราม 3” แบ่งเบาปัญหาจราจร
มาจับตาดูอีกโครงการหนึ่งที่ผ่านความเห็นชอบ EIA แล้ว และมีแนวโน้มที่จะได้เห็นโครงการนี้เกิดขึ้นจริง สำหรับโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ซึ่งเป็น 1 ใน 6 โครงการระยะเร่งด่วนตามแผนการพัฒนาระบบทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) โดยล่าสุดโครงการนี้ผ่าน EIA แล้ว และกำลังอยู่ในช่วงเตรียมเสนอครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติ ตามแผนการสร้างที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปีเศษ และน่าจะเปิดใช้บริการประมาณปี พ.ศ.2563
โครงการทางพิเศษ พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก มีความสำคัญอย่างไร? สำหรับจุดประสงค์หลักในการสร้างทางพิเศษนี้ขึ้นมา ก็เพื่อขยายโครงข่ายทางพิเศษเพื่อตอบสนองกับจำนวนรถโดยสารในปัจจุบันที่มีการใช้งานบนพื้นที่ชั้นนอกและพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการจะเดินทางเข้าเมืองโดยใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานครหรือทางด่วนขั้นที่ 1 บริเวณดาวคะนอง จะมีเพียงสะพานพระราม 9 เป็นทางผ่านแค่ทางเดียว ทำให้เกิดปัญหาปริมาณรถหนาแน่น อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 2 ตรงบริเวณช่วงดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฯ และช่วงบางโคล่-ดาวคะนอง นอกจากนี้ ในกรณีที่สะพานพระราม 9 ปิดซ่อมบำรุงเนื่องจากผ่านการใช้งานมานานกว่า 30 ปีแล้ว ทางพิเศษพระราม 3 ก็จะเป็นเส้นทางที่มาทดแทน เพื่อแก้ปัญหาจราจรต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของรายละเอียดโครงการดังกล่าว มีลักษณะเป็นแนวเส้นทางยกระดับ ขนาด 6 ช่องทางจราจร ซ้อนทับไปตามเกาะกลางถนนพระราม 2 ไปจนถึงบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางดาวคะนอง และสร้างซ้อนทับบนทางพิเศษเฉลิมมหานครไปจนถึงบริเวณถนนพระราม 3 ใกล้ทางแยกต่างระดับบางโคล่ ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ ซึ่งทางด่วนพระราม 3 จะเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัช โดยมีระยะทางทั้งสิ้น 18.7 กิโลเมตร ส่วนบางช่วงของทางด่วนที่ต้องสร้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีลักษณะพิเศษคือเป็นเส้นทางขนาด 8 ช่องทางจราจร ขนานอยู่ทางทิศใต้ของสะพานพระราม 9 เพื่อให้เป็นเส้นทางที่ใช้งานแทนกันได้ ตามที่ได้กล่าวถึงไปในข้างต้น
ในอนาคตอันใกล้ หากได้เห็นโครงการเป็นรูปเป็นร่าง ก็คงจะมีส่วนช่วยลดปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ อยู่ไม่น้อย และเส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางที่ช่วยเชื่อมต่อการเดินทางจากกรุงเทพฯ (จากบางขุนเทียน) มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ได้อีกด้วย คงตอบโจทย์สำหรับใครที่อยู่ในทำเลโซนนี้กันไม่น้อยเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก home.co.th
ขอบคุณภาพจาก การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม, realist.co.th