ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยพฤติกรรมคนซื้อบ้านเปลี่ยน
หันพึ่งข้อมูลผ่านโซเชียลเพิ่ม หลังพบลูกค้ากว่า 60% ที่เข้าชมโครงการมาจากออนไลน์
– เดินหน้าแผนเจาะตรงกลุ่มเป้าหมายเพิ่มโอกาสการเข้าถึง ตอบโจทย์ด้วยการพัฒนาฟังก์ชันบ้านที่คุ้มค่า และเตรียมพร้อมแผนการเงินก่อนยื่นกู้ –
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เดินหน้ากลยุทธ์การตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ หลังพบโควิด-19 เปลี่ยนพฤติกรรมการเข้าถึงข้อมูลการซื้อบ้านของผู้บริโภคสู่วิถีออนไลน์ รุกพัฒนาช่องทางการสื่อสารครบทุกแพลตฟอร์มเพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี’ เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมสถานการณ์ของประเทศไทยในแต่ละปีจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม แต่การแสวงหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ยังคงเกิดขึ้นเป็นปกติในทุกสถานการณ์ ดังข้อมูลจากรายงาน Google Year in Search 2021 ที่เจาะลึกถึงเทรนด์อสังหาริมทรัพย์ไทยผ่านการค้นหาข้อมูลในด้านต่างๆเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันผู้บริโภคกำลังก้าวเข้าสู่สังคมเชิงเดี่ยวเพิ่มมากขึ้น พิจารณาจากเหตุผลในการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่กว่า 73% ต้องการความเป็นส่วนตัวและต้องการแยกตัวจากครอบครัวใหญ่ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะขยายครอบครัวในอนาคต ที่สำคัญยังพบว่า 95% ของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อค้นหาข้อมูลของผลิตภัณฑ์หรือบริการก่อนการตัดสินใจซื้อ
“จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคทำให้บริษัทฯ ได้พัฒนาช่องทางการค้นหาข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยผ่านโซเชียลมีเดียครบทุกแพลตฟอร์ม ปัจจุบันพบว่าการเข้าถึงข้อมูลของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่านช่องทาง Facebook และการค้นหาผ่าน google search ตามลำดับ” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวถึงภาพรวมช่องทางที่ผู้บริโภคใช้ค้นหาข้อมูลบ้านของบริษัทฯ ในปัจจุบัน โดยคำค้นหายอดนิยมยังคงเป็นคำว่า ‘บ้าน’, ‘ทำเล’ และ ‘ราคา’
การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคในโลกออนไลน์ ทำให้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ สามารถเข้าถึงความต้องการที่แท้จริง และพัฒนาภาพรวมการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียสู่ผู้บริโภคได้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นเพื่อให้ทุกครั้งที่ลูกค้ามองหาบ้าน ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆในใจของผู้บริโภคเสมอ และสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ในการตลาดยุคดิจิตอลที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบันนี้ คือการดึงความสนใจจากผู้บริโภค ผ่านรูปแบบ Content ต่างๆให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งบริษัทของเรามีการทำ Content ต่างๆในช่องทาง อาทิ Website , Facebook, Instagram, Youtube ,Tiktok เป็นต้น โดยจะเลือกรูปแบบการนำเสนอให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย และตรงกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในเรื่องเทคนิคการขายผ่านช่องทางออนไลน์และสร้างการจดจำที่ดีในแง่ของแบรนด์ได้อีกด้วย “การนำข้อมูลความต้องการของผู้บริโภคมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคสูงสุดคือเป้าหมายหลักของเรา ปัจจุบันข้อได้เปรียบของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ในสายตาผู้บริโภคคือ Design ที่มีเอกลักษณ์สวยงาม และฟังก์ชันหรือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เมื่อเทียบมูลค่าต่อตารางเมตร ถือว่าคุ้มค่าที่สุดแบรนด์หนึ่งในตลาด อีกทั้งด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันเรายังได้พัฒนาทีมเพื่อคอยให้คำปรึกษาแก่ผู้บริโภคให้เข้าใจและเตรียมความพร้อมทุกขั้นตอนในการยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ การดำเนินการที่ควบคู่กันทั้งเติมเต็มความต้องการด้านโครงการและสร้างความพร้อมด้านการเงินจึงมีส่วนช่วยผู้บริโภคอย่างมาก ทั้งนี้ทางบริษัทยังได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยได้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในเรื่องการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว เพื่อให้สามารถซื้อบ้านได้อย่างง่ายขึ้นและสะดวกสบายแก่ลูกค้า” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวเสริม
เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์ได้ตรงกลุ่มที่สุดนั้น จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสความสนใจของผู้บริโภคและพัฒนาสู่ผู้ซื้อตัวจริงได้มากยิ่งขึ้น “การทำการตลาดออนไลน์อย่างมีกลยุทธ์ส่งผลให้ปัจจุบัน ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มียอดผู้สนใจเข้าชมโครงการที่มาจากช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิมอยู่ที่ 50% ในปีที่ผ่านมา และยังกำหนดเป้าหมายให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี ให้สอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ชีวิตบนแพลตฟอร์มในยุคดิจิตอลแบบเต็มรูปแบบ” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวสรุป
สอบถามและชมข้อมูล ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เพิ่มเติมได้ที่
Call Center 1778 หรือ www.lalinproperty.com